จับทอมเหี้ยมฆ่าเจ๊แดงตีเนียนคืนแหวนศพ โดนแฉติดหนี้หวย ดาบโจ้โล่งพ้นครหา

จากกรณีความคืบหน้าที่มีรายงานจากตำรวจว่า 1 ใน 3 คนที่ไปกินเหล้าที่ร้านเจ๊แดงในคืนเกิดเหตุ ยอมรับสารภาพกับทางตำรวจแล้วว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารเจ๊แดง ซึ่งคนที่รับสารภาพในพฤติกรรมบางอย่าง เคยให้สัมภาษณ์กับทางอมรินทร์ว่าได้อยู่กับเจ๊แดงเป็นคนสุดท้าย เนื่องจากเป็นคนยืมรถเจ๊แดงไปแล้วนำรถกลับมาคืน ในเวลา 22.20 น.

ล่าสุดวันที่ 7 ก.ค. 65 ที่ สภ.ป่งไฮ หลังจาก น.ส.ศศิธร สืบสอน หรือ น้อยหน่า อายุ 24 ปี รับสารภาพกับตำรวจว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารเจ๊แดง ซึ่งเมื่อคืนนี้ 6 ก.ค.65 มีรายงานว่าตำรวจได้นำตัวน้อยหน่าไปค้นบ้านพัก เพื่อเก็บหลักฐานเป็นเสื้อผ้าที่น้อยหน่าใส่ในคืนเกิดเหตุ ตรวจร่องรอยคราบเลือดและเปรียบเทียบ DNA ของเจ๊แดง

จากนั้นเมื่อเวลา 10.45 น. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ ยี่สารพัฒน์ ผกก.สืบสวน 2 บก.ภ.4 นำกำลังชุดสืบร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ และตำรวจ สภ.ป่งไฮ กว่า 50 นาย ไปปูพรมค้นหาหลักฐานสำคัญ มีดและโทรศัพท์ที่ น.ส.ศศิธร สืบสอน หรือ น้อยหน่า อายุ 24 ปี ให้การกับตำรวจว่านำไปโยนทิ้งไว้ บริเวณสะพานลำห้วยฮี้หน้าหมู่บ้านป่งไฮ ห่างจากบ้านของเจ๊แดง ประมาณ 240 เมตร

ซึ่งตำรวจได้ลงไปเดินปูพรมค้นหาจากด้านใต้สะพานทั้ง 2 ฝั่ง เดินหาตามป่าหญ้าและตามโขดหิน อยู่ประมาณ 30 นาที ท่ามกลางสายฝน และชาวบ้านที่มายืนให้กำลังใจตำรวจ แต่ยังไม่พบหลักฐาน

น.ส.เกษสุดา จอดนอก หรือ น้อง อายุ 29 ปี เพื่อนร่วมวงเหล้าเจ๊แดง ที่ไปร่วมงานศพของเจ๊แดง ยอมรับว่าตนเองไปกินเหล้าที่ร้านเจ๊แดงตั้งแต่เที่ยงวัน และกลับออกจากร้านไปตอน 22.10 น. ซึ่งตอนออกจากร้าน เจ๊แดงยังมีชีวิตอยู่ ส่วนรอยเท้าที่ตนเองตกเป็นผู้ต้องสงสัย ยอมรับว่าตนเองเดินเข้าไปในร้านเจ๊แดงจริง เดินไป 2 รอบไปเอามาม่าออกมาแก้มเหล้า แล้วก็ไม่ได้เดินไปถึงเตียงที่เจ๊แดงนอนอยู่

ซึ่งระหว่างตนเองกินเหล้าที่ข้างร้านเจ๊แดง ตนเองนั่งหันหลังให้กับกระจกหน้าต่างร้านเจ๊แดงตลอดเวลา จึงไม่เห็นว่าระหว่างวันเจ๊แดงคุยโทรศัพท์หรือพูดคุยกับใครที่มาซื้อของในร้าน ทั้งนี้ ไม่รู้ว่าน้อยหน่ากลับเอารถมาคืนให้เจ๊แดงตอนไหน เพราะตลอดทั้งคืนนั้น ตนเองกับกาแฟ ไม่ได้คุยกับน้อยหน่า ยอมรับว่าตกใจมากที่มารู้ข่าวว่าน้อยหน่ารับสารภาพกับตำรวจว่าเป็นคนฆ่าเจ๊แดง ตลอดทั้งวันก่อนเจ๊แดงตาย เจ๊แดงกับน้อยหน่าพูดคุยกันปกติ ไม่ได้มีท่าทีทะเลาะกันให้เห็น และยิ่งไปกว่านั้นหลังเกิดเหตุน้อยหน่ายังมาบ่นให้ตัวเองกับเพื่อนฟังว่า ทำไมคนร้ายถึงทำกับเจ๊แดงได้ถึงขนาดนี้ หากน้อยหน่าเป็นคนสังหารเจ๊แดงจริง ยอมรับว่าน้อยหน่าเลือดเย็นมาก เพราะหลังเกิดเหตุน้อยหน่าทำตัวเนียนมาร่วมงานศพเข้าออกร้านเจ๊แดง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ระหว่างที่ น.ส.พัชฎาพร หรือ กาแฟ ขี่รถมารับ น.ส.เกษสุดา ทีมข่าวก็ได้มีโอกาสเดินไปสอบถามว่า เกี่ยวข้องอะไรกับคำสารภาพของน้อยหน่าหรือไม่ กาแฟก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่าตนเองบริสุทธิ์

โดยยังไม่แจ้งข้อหาสาวทอมคนสนิท ทำให้ขณะนี้น้อยหน่ายังคงเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะยังไม่พบของกลาง และหลักฐานทางคดีเพิ่ม ซึ่งวันนี้ที่น้อยหน่าอ้างว่าได้ไปทิ้งมีดและโทรศัพท์ลงไปที่สะพานลำห้วยฮี้ ในช่วงเวลา 01.00 น. ทีมข่าวได้ย้อนกลับไปดูวงจรปิด ที่อยู่ใกล้กับสะพาน พบว่าช่วงเวลาดังกล่าว มีรถจักรยานยนต์ขับผ่านหน้ากล้องไปทางสะพานด้วยความเร็ว ย้อนกลับมาทางเดิมไปทางบ้านของเจ๊แดง ในเวลา 01.19 น.

 

 

น.ส.ธัญญรัตน์ พอบาน หรือ จอย อายุ 26 ปี ลูกสาวคนโตของเจ๊แดง บอกว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าน้อยหน่าลงมือฆ่าแม่เพียงคนเดียว และยังไม่รู้ว่ากาแฟกับน้องรู้เห็นอะไรบ้าง ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุทั้ง 3 คนนี้ไปร่วมงานศพของแม่ตามปกติ ไม่ได้มีพิรุธที่บงบอกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของแม่

ซึ่งที่ผ่านมาตนเองสังเกตเห็นแค่ว่าน้อยหน่า พยายามพูดกับญาติว่าจะช่วยหาโทรศัพท์แม่บ้าง พูดให้คนในครอบครัวเชื่อว่าคืนเกิดเหตุเขากลับบ้านไปแล้ว แต่ไม่เคยพูดให้ตนเองฟังว่าอยู่กับแม่เป็นคนสุดท้ายในคืนเกิดเหตุ ทำให้ตนเองไม่เคยสงสัยในตัวน้อยหน่า เลยตั้งแต่เกิดเหตุ เพราะน้อยหน่ามาช่วยงานศพแม่ทุกวัน แต่มีพิรุธตรงที่ว่าเมื่อวานนี้แหวนของแม่ดันโผล่ขึ้นมาใต้เตียงของแม่ ทั้งที่วันที่เจอศพแม่ ทุกคนหาในจุดนั้นแล้วแต่ก็ไม่มีใครเจอ ทำให้ตนเองคิดว่าน้อยหน่าน่าจะอาศัยช่วงที่เดินเข้าเดินออกไปเอาของในร้าน แล้วนำแหวนไปวางไว้ที่ใต้เตียงของแม่หรือไม่

ยอมรับว่าเสียใจมาก หากน้อยหน่าเป็นคนสังหารแม่ เพราะแม่รักน้อยหน่าเหมือนกับลูกอีกคน ตอนนี้ทางครอบครัวได้คุยกันแล้ว หากคดียังไม่ชัดเจนว่าใครเป็นคนฆ่า ก็จะไม่เผาศพแม่ และถ้าหากน้อยหน่าเป็นคนฆ่า ก็อยากจะให้ตำรวจนำตัวน้อยหน่าไปขอขมาศพของแม่ก่อนจะเข้าคุก

นางละมุด (นามสมมุติ) ชาวบ้านป่งไฮ บอกว่า เมื่อวานนี้ตนเองเป็นคนส่งข้อความเข้าไปยังเพจเฟซบุ๊ก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34 ว่าน้อยหน่า สารภาพแล้ว ซึ่งตนเองสงสัยน้อยหน่ามาตั้งแต่วันแรกที่เจอศพเจ๊แดง เนื่องจากน้อยหน่าอยู่กับเจ๊แดงเป็นคนสุดท้าย และที่สำคัญพฤติกรรมของน้อยหน่าเป็นคนมีปัญหาเรื่องเงิน เพราะเป็นคนที่ชอบเล่นหวยใต้ดิน แต่ไม่ทำมาหากิน ซื้อหวยกับใครก็ไม่เคยจ่าย จนต้องหลอกยืมเงินคนในหมู่บ้านไปทั่ว

ซึ่งตนเองยังเคยถูกน้อยหน่าหลอกยืมเงินไป 3,000 บาท และคิดว่าที่ผ่านมาเจ๊แดงน่าจะช่วยเหลือน้อยหน่าเรื่องเงินมาโดยตลอด เพราะตัวน้อยหน่าจะเป็นคนเข้าหาคนง่าย พูดจาดี น่าเชื่อถือ ชอบไปแจมวงเหล้ากับคนในหมู่บ้านโดยไม่เคยช่วยออกเงิน เซ็นของร้านชำก็ไม่เคยจ่าย ไม่รู้ว่าวันเกิดเหตุจะมีปัญหาเรื่องอะไรกับเจ๊แดง อยากจะให้ตำรวจปิดคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะตอนนี้ชาวบ้านก็อยู่กับอย่างหวาดผวา

นางคำดี สืบสอน อายุ 68 ปี ยายของน้อยหน่า เปิดเผยว่า ตนเองใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านกับ น้อยหน่า 2 คน เนื่องจากพ่อของน้อยหน่า ไปทำงานที่ต่างประเทศ จึงฝากให้ตนเองเลี้ยงน้อยหน่ามาตั้งแต่อายุแค่ 1 ขวบ

เมื่อคืนนี้ตอนหัวค่ำ รู้สึกตกใจมากที่ตำรวจคุมตัวน้อยหน่ามาค้นหาเสื้อผ้าที่บ้าน พอค้นเสร็จน้อยหน่าก็ก้มลงกอดขาตนเอง กราบเท้าร้องไห้ บอกกับตนเองแค่ว่า “ยาย หนูขอโทษ หนูไม่ได้ทำ หนูทำเขาไม่ได้หรอก” แล้วตำรวจก็พาขึ้นรถกลับไปที่โรงพัก บอกแต่ว่าเดี๋ยวจะเอาหลานมาส่งคืนให้ จนถึงป่านี้หลานยังไม่ได้กลับมา

ยอมรับว่าสงสารหลานมาก คิดว่าหลานก็ไม่ได้เป็นคนฆ่าเจ๊แดง เพราะที่ผ่านมาหลานเป็นคนใจบุญ ไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และนับถือเจ๊แดงเหมือนแม่ สนิทกับเจ๊แดงมาก เจ๊แดงอยากกินอะไรอยากได้อะไรก็ใช้ให้หลานหาให้ตลอด คืนวันเกิดเหตุยืนยันว่าหลานกลับมาบ้านตอน 4 ทุ่มกว่าแล้วก็ไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน ตอนหลานกลับมาบ้าน หลานไม่ได้มีรอยเลือดเปื้อนที่เสื้อผ้าหรือมีท่าทางผิดปกติ แต่ถ้าหากฆ่าจริง ในฐานะคนที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กก็คงจะเสียใจไปตลอดชีวิต ตั้งแต่เมื่อคืนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะเป็นห่วงหลาน

ทีมข่าวได้มีการไปตรวจสอบเฟซบุ๊กของน้อยหน่า พบว่าเคยทำงานอยู่ที่เทศบาลป่งไฮ และมีการโพสต์ภาพพระอาทิตย์ขึ้นเมื่อวานนี้ก่อนจะรับสารภาพกับตำรวจ มีข้อความว่า “จะขอเก็บดวงตะวันที่ส่งแสง(แพรว)พราว💞👩‍🏫ให้ดุจดังความรักที่ส่องแสงสว่างในดวงใจ🌻”

ด้านดาบโจ้ คนสนิทของเจ๊แดง เปิดเผยความรู้สึกภายหลังที่น้อยหน่ารับสารภาพลงมือสังหารเจ๊แดง บอกกับทีมข่าวทางโทรศัทพ์ว่า “ตามนั้นแหละครับ ผมพูดไปหมดแล้ว”