LINE : ติดต่อผู้ดูแล

ยินต้อนรับเว็บไซต์ข่าวสารเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ

วันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2024
ข่าวเด่นบึงกาฬ

วัดเวฬุวัน อ.ศรีวิไล”อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพุทธวันนี้คนบึงกาฬรู้จักแล้วหรือยัง”

ชมคลิปแนะนำจากยูทูป

หากเอ่ยถึง วัดเวฬุวัน หมู่ ๘ ต.ชุมภูพร อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬหลาย ๆ คนอาจไม่คุ้นเคย  แต่หากทราบประวัติความเป็นมาของวัดแห่งนี้แล้วจะพบว่าน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าวัดอื่น ๆ ในประเทศไทยเลย

วัดเวฬุวัน เป็นวัดสายพระป่าอีกแห่งหนึ่ง สืบสานการวิปัสสนากรรมฐานสายตรงจาก พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ปรมาจารย์ผู้สร้างตำนานของ “พระป่า” และ “กองทัพธรรม” อันลือลั่น ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางประมาณ ๘๐ ไร่เศษ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากชุมชนมากนัก

วัดแห่งนี้มีประวัติการก่อสร้างมายาวนาน ตั้งแต่มีการตั้งชุมชน (ประมาณ พ.ศ. ๒๓๕๑) โดยผู้นำชุมชนผู้สืบเชื้อสายมาจาก พระยาหงสาวดี (ท้าวหม้อ) แห่งเมืองไชยสุทธิ์อุตตมบุรี และผู้สืบเชื้อสายจาก พระศรีวรราช (ท้าวปทุม) เจ้าเมืองท่าอุเทน และผู้สืบเชื้อสายจาก พระศรีวรราช (พระยาก่า) แห่งเมืองวัง ได้ร่วมกันสร้างวัด และเห็นว่าพื้นที่โดยรอบมีป่าไผ่จำนวนมาก จึงเรียกนามวัดนี้ว่า “วัดเวฬุวัน” จากนั้นมา

วัดเวฬุวัน เป็นวัดราษฎร์ สังกัดธรรมยุติก นิกาย มักมีพระภิกษุเดินทางจากที่ห่างไกลมาจำพรรษาและศึกษาเล่าเรียนพระธรรมและวิปัสสนากรรมฐานไม่ได้ขาด ดังปรากฏตามหลักฐานตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๒ เป็นต้นมา

capture-20151109-033934

ความสำคัญของวัดเวฬุวัน ประการแรก เป็นวัดที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้สร้างปูชนียวัตถุสำคัญ (พระบรมรูป ร.๕) ประดิษฐานไว้ ได้รับพระราชทานพระราชูปถัมภ์ จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯไปทรงทอดผ้าพระกฐิน และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงรับไว้ในพระสังฆราชูปถัมภ์

ประการที่สอง เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์การตั้งชุมชนในพื้นที่อำเภอศรีวิไลและพื้นที่ใกล้เคียง และเป็นศูนย์กลางของชุมชน ดังคำขวัญของอำเภอศรีวิไลที่ว่า “ภูทอกแดนมหัศจรรย์ วัดเวฬุวันเรืองชื่อ อดีตเล่าลือบ้านนาทราย” และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดหนองคาย

ประการที่สาม เป็นวัดที่เป็นศูนย์กลางด้านการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนก ธรรม-บาลี และสามัญศึกษา และเป็นศูนย์กลางในการเข้าไปปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนทั่วไป



_paragraph___paragraph_154

เมื่อคราวเจ้าประคุณ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ยังมีพระพลานามัยแข็งแรง (ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๐๕- ๒๕๒๓) เคยเสด็จไปศึกษาและค้นคว้าด้านวิปัสสนากรรมฐานหรือวิปัสสนาธุระบ่อยครั้งที่วัดเวฬุวัน เป็นเวลา ๑๕ วันบ้าง ๑ เดือนบ้าง บางครั้ง ก็เสด็จไปทรงศึกษาพระกรรมฐานจาก หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่ดุลย์ อตุโล หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง พระอาจารย์ จวน กุลเชฏโฐ ที่วัดเจตยาคีรีวิหาร (ภูทอก) โดยรับสั่งว่า “ที่จริงแล้วฉันไม่ได้ตั้งใจจะเป็นพระในเมือง อยากเป็นพระกรรมฐานหรือพระป่ามากกว่า แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ไป”

S4

สมเด็จพระญาณสังวรฯ ทรงรับวัดเวฬุวัน ไว้ในพระสังฆราชูปถัมภ์ และประทานปัจจัยทุนทรัพย์และทรงวางศิลาฤกษ์ในการก่อสร้างเสนาสนะ กุฏิ อาคารเรียน แหล่งน้ำใช้อุปโภคบริโภค ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นต้นมา ซึ่งทางวัดได้รับการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการศึกษาของพระพุทธศาสนา มีการเปิดสอนแผนกธรรม แผนกบาลี และแผนกสามัญศึกษา เพื่อให้พระภิกษุและสามเณรศึกษาเล่าเรียน มีความรู้ มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในพระธรรมวินัย อันเป็นการสืบสานพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองในภายภาคหน้า

capture-20151109-022041

พระภิกษุสามเณรส่วนใหญ่มักได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระญาณสังวรฯ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์บรรพชาอุปสมบทกุลบุตรที่วัดบวรนิเวศวิหารแล้วค่อยส่งไปจำพรรษาที่วัดเวฬุวัน เพื่อศึกษาพระธรรมและวิปัสสนาธุระ ทำให้ความเจริญด้านพระพุทธศาสนารุ่งเรืองก้าวหน้ารวดเร็ว ซึ่งในการสอบนักธรรมแต่ละปี พระภิกษุสามเณรวัดเวฬุวันมักสอบนักธรรมบาลีเพิ่มขึ้นทุกปี สูงสุดเคยสอบได้มากเป็นอันดับ ๖ ของประเทศไทย

capture-20151109-021636

ในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์อุปนายิกาสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทอดผ้าพระกฐิน และในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ประดิษฐานในพลับพลาทรงไทยจัตุรมุข ภายในวัดเวฬุวัน

capture-20151109-021716capture-20151109-021752

ปัจจุบันวัดเวฬุวัน กลายเป็นศูนย์กลางการศึกษาและปฏิบัติธรรมในภาคอีสาน จึงมีการก่อสร้างถาวรวัตถุต่าง ๆ ให้เป็นที่เคารพสักการะแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป

capture-20151109-021910

capture-20151109-021834

 

ในวัดเวฬุวันนี้ยังมีสถานที่ เก็บรูปปั้นจักรพรรดิ์จีน

สถานที่เก็บหุ่นทั้งหมด อยู่ที่วัด เวฬุวัน ต.ชมภูพร อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ

… สำหรับการเข้ามาอยู่ที่วัดเวฬุวันนี้ ได้รับการบอกเล่าจากพระภิกษุรูปหนึ่งที่ทราบประวัติความเป็นมาดี .. เล่าให้คณะทีมปั่นของเราว่า ….. เมื่อปีพ.ศ. 2536 ได้มีกลุ่มพ่อค้าชาวจีนจะนำมาจัดนิทรรศการที่ประเทศไทย โดยนำมาทางทะเล .. แต่การนำเข้ามาไม่ถูกต้องตามกระบวนการทางกฏหมายศุลกากรไทย จึงได้ทำการยึดไว้ก่อน และแจ้งให้ผู้นำเข้ามา มาเสียค่าธรรมเนียมและค่าปรับ แต่ก็ไม่มีใครมาติดต่อจัดการให้ถูกต้อง .. เมื่อพ้นกำหนดจึงยึดไว้เป็นของกลาง และได้นำถวายสมเด็จพระสังฆราช เลขาพระสังฆราชได้ให้นำมาเก็บไว้ที่วัดเวฬุวัน .. กว่าจะทำที่เก็บเรียบร้อย ก็ต้องตากแดดตากฝนอยู่เป็นปี ฉะนั้นหุ่นบางตัวก็มีสีหลุดล่อนไปบ้าง ……..

9584_108342

9584_108333 9584_108334 9584_108335 9584_108336

12027576_917718871655344_7464467349392343778_n 12039566_917718861655345_2388683414630073010_n 9584_108337 9584_108338 9584_108339 9584_108340 12049632_917718864988678_3552022634465689862_n 9584_108343

อัลบั้มรูปวัดเวฬุวันในปัจจุบัน ถ่ายเมื่อวันที่ 9/11/58  โดยคุณ  มะลิ ลำทอง ส่งภาพมาให้ทางแอดมิน bungkan.net

(วิธีการรับชมภาพคลิกที่ภาพได้เลยครับสำหรับมือถือคลิกที่ภาพแล้วเเตะภาพได้เลย)

 

เรียบเรียงโดย แอดมิน bungkan.net  นายไพรัตน์ ชินโคตร’>

ข่าวเด่นบึงกาฬ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด