LINE : ติดต่อผู้ดูแล

ยินต้อนรับเว็บไซต์ข่าวสารเพจข่าวท้องถิ่นบึงกาฬ

วันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2024
ข่าวเด่นบึงกาฬ

ชาวบ้านเดือด ถูกทวงค่าน้ำประปาย้อนหลัง 10 ปี ถือหนังสือบุกถาม อบต. ทำไมเพิ่งมาทวง

ชาวบ้านเดือด ถูกทวงค่าน้ำประปาย้อนหลัง 10 ปี ถือหนังสือบุกถาม อบต. ทำไมเพิ่งมาทวง ทั้งที่ข้อตกลงก็มีอยู่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านนาแสงสาคร ม.7 ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ กว่า 30 ครัวเรือน ถือหนังสือทวงหนี้ค่าน้ำประปา จากองค์การบริหารส่วนตำบลนาแสง ย้อนหลังตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 เข้ารับฟังการชี้แจงจาก นายนิรันดร์ เนาวนิต นายก.อบต.นาแสง และเจ้าหน้ากองคลัง อบต.นาแสง ถึงข้อเท็จจริงในการทำหนังสือทวงหนี้ค่าน้ำประปา ย้อนหลังเกือบ 10 ปี กับชาวบ้านทั้งตำบลนาแสง ใน 6 หมู่บ้าน กว่า 1,200 ครัวเรือน ทั้งที่ชาวบ้านส่วนใหญ่จ่ายค่าน้ำประปา ผ่านตัวแทนผู้รับจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลนาแสง มาโดยตลอด โดยเริ่มมีหนังสือแจ้งทวงหนี้ไปที่ชาวบ้านบ้านนาแสงสาคร หมู่ที่ 7 ก่อนหมู่บ้านอื่นๆ

โดยจากข้อมูลพบว่า ในปี 2558 มีชาวบ้านค้างค่าน้ำประปาจำนวน 343 ครัวเรือน เป็นเงิน 40,587 บาท /ปี 2559 ค้าง 1,200 ครัวเรือน เป็นเงิน 125,007 บาท / ปี 2560 ค้าง 455 ครัวเรือน เป็นเงิน 34,696 บาท /ปี 2561 ไม่มีค้าง / ปี 2562ค้าง 566 ครัวเรือน เป็นเงิน 45,041 บาท /ปี 2563 ค้าง 83 ครัวเรือน เป็นเงิน 19,707 บาท /ปี 2564 ค้าง 497 ครัวเรือน เป็นเงิน 37,275 บาท /ปี 2565 ค้าง 554 ครัวเรือน เป็นเงิน 31,602 บาท /และปี 2566 ค้างเป็นเงิน 64,829 บาท รวมเป็นเงินที่ยังคงค้างในระบบการจัดเก็บค่าน้ำประปาจำนวนทั้งสิ้น 398,744 บาท

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจาก สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเข้าตรวจสอบการปฏิบัติงานของ อบต.นาแสง รวมไปถึงการรายงานการรับจ่ายเงินประจำปีและงบแสดงฐานะการเงิน ของ อบต.และพบว่ามียอดค่าน้ำประปาคงค้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 จึงสั่งให้ อบต.นาแสง ทำหนังสือทวงหนี้ค่าน้ำประปากับชาวบ้านที่ยังค้างจ่าย

โดยหลังจากการชี้แจงของ อบต.นาแสง ยืนยันว่าชาวบ้านจะต้องจ่ายค่าน้ำประปาที่ยังค้างอยู่ ส่วนคนที่ยืนยันว่าตัวเองจ่ายค่าน้ำประปามาแล้วก็ให้นำหลักฐานใบเสร็จรับเงินมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ พร้อมถามกับไปหาเจ้าหน้าที่ว่า ที่ผ่านมา อบต.กับชาวบ้าน ก็มีสัญญากันไว้อยู่ก่อนที่จะติดมิเตอร์น้ำประปา ว่าหากค้างจ่าย 3 เดือน ให้ อบต.ไปตัดมิเตอร์น้ำ แล้วที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำอะไรกันอยู่ ถึงปล่อยปะละเลยจนมาถึงปัจจุบัน แล้วชาวบ้านคนที่เขาจ่ายมาตั้งแต่ปี 2558 ใครจะเก็บใบเสร็จรับเงินไว้ ถึงเก็บไว้ตัวเลขตัวหนังสือต่างๆคงเลือนหายไปหมดแล้ว พร้อมกันนั้นได้พากันลุกออกจากห้องประชุม ออกมาวิพากย์วิจารย์ต่างๆนาๆ ด้านนอก

นายสำรวย ลารถ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182 ม.7 บ.นาแสงสาคร กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2558 ชาวบ้านก็รู้สัญญากับ อบต.อยู่แล้วว่าการติดตั้งน้ำประปาจะต้องปฏิบัติอย่างไรระหว่างผู้ใช้ กับผู้จ่าย ถ้าไม่จ่ายภายใน 3 เดือนจะตัดมิเตอร์ จนล่วงเลยมานาน ถามกลับว่าทำไมไม่ไปตัดมิเตอร์ของชาวบ้านที่ค้างจ่าย ทำไมถึงเอายอดค้างตั้งแต่ปี 2558 มาเรียกเก็บ ซึ่งชาวบ้านบางคนมียอดรวมกันพันกว่าบาท บางคนสองพันกว่าบาท บางคน 4 ร้อย 5 ร้อย 7 ร้อย 8 ร้อย แล้วชาวบ้านใครจะมาจ่ายย้อนหลัง ชาวบ้านเขาก็มายอมจ่าย ถ้าทำแบบนี้ชาวบ้านเดือดร้อน ส่วนตัวแล้วก็ยืนยันว่าตัวเองไม่เคยค้างค่าน้ำจ่ายมาตลอด ตัวเองก็อยู่บ้านตลอด ถามว่าถ้าไม่จ่าย แล้ว อบต.ทำไมไม่ไปเก็บ เก็บเงินมาแล้วเอาไปไหน ทำไมไม่เอาเข้าคลัง กลับปล่อยปละละเลย แล้วมาเรียกเก็บที่หลังทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนขนาดนี้

ต่อมา สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดบึงกาฬ โดยนางสาวนันท์นภัส สืบสัมพันธ์ ผอ.ป.ป.ช.บึงกาฬ มอบหมายให้ นายนราวิชญ์ มาตราช หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต และคณะฯ ร่วมกับ ชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดบึงกาฬ ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาของชาวบ้าน กับ อบต.นาแสง หลังได้รับแจ้งเบาะแส พร้อมเชิญ นายก อบต.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหาแนวทางช่วยเหลือชาวบ้าน

โดยได้ข้อสรุปและแจ้งกับชาวบ้าน ว่า ทาง อบต.นาแสง จะอนุโลม ให้ชาวบ้านที่ค้างค่าน้ำประปาอยู่ หากชาวบ้านครอบครัวไหนไม่สามาถจ่ายเต็มจำนวนได้ก็ทยอยมาชำระค่าน้ำได้โดยไม่จำกัดระยะเวลา และค่าน้ำคงค้างในปี 2558-2561 นั้น ทาง อบต.จะรับผิดชอบค่าน้ำที่ค้างอยู่เอง และทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่าหลังจากนี้ อบต.จะใช้ระเบียบที่ตกลงกันไว้ในสัญญาติดน้ำประปา คือครัวเรือนไหน ไม่จ่ายค่าน้ำ 3 เดือน จะตัดมิเตอร์น้ำทันที ซึ่งก็ทำให้ชาวบ้านพอใจ ในข้อตกลงดังกล่าว

ด้านนายนิรันดร์ เนาวนิต นายก.อบต.นาแสง กล่าวว่า จากการที่ สตง.เข้ามาตรวจสอบบิลค่าน้ำ ได้พบว่ามีบิลค้างอยู่ตั้งแต่ปี 2558-2564 ซึ่งในห้วงนั้นตนยังไม่ได้มารับตำแหน่ง หลัง สตง.ตรวจพบแล้ว ปรากฏว่ามีบิลที่เป็นลูกหนี้ หรือชาวบ้านค้างค่าหนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ในสมัยนั้นอาจจะยังไม่เคร่งครัดในการจัดเก็บ หรือเห็นใจชาวบ้าน หรืออะไรก็แล้วแต่ ในเมื่อชาวบ้านไม่จ่ายค่าน้ำ ซึ่งบางคน 4-5 ปี ที่ผ่านมา มีแค่ 2 เดือน หรือ 3 เดือน แต่ชาวบ้านก็มั่นใจว่าตัวเองจ่ายมาตลอดไม่เคยค้าง แต่กลับมาปรากฏอยู่ในบิลค่าน้ำประปา เป็นลูกหนี้ เพราะฉะนั้นในปี 2567 นี้ ทาง สตง.ก็เข้ามาตรวจอีกครั้งและโยนให้นายก ในฐานะผู้นำองค์กร จะต้องรับผิดชอบในการท้วงหนี้จากชาวบ้าน ซึ่งตัวเองก็ได้ปรึกษากับ จนท.จัดเก็บ กองคลัง ก็เลยทำหนังสือทวงหนี้ตั้งแต่ปี 2558 นำส่งหมู่บ้านนาแสงสาครก่อน เพราะเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้ อบต. เมื่อทวงไปแล้วทำให้ชาวบ้านไม่พอใจ รวมตัวมาขอคำชี้แจงจาก อบต.

ซึ่ง อบต.ก็ชี้แจงไปว่าที่ทวงไปนั้นเป็นการทำตามหน้าที่หากไม่ทำก็จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่(157) หลังพูดคุยกับชาวบ้านก็ได้ข้อสรุปว่า หนี้ที่ค้างอยู่ก็ให้ชาวบ้านทยอยจ่ายเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งชาวบ้านก็พอใจ และได้ตกลงกับชาวบ้านว่า เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก ต่อไปหากครัวเรือนไหนค้างค่าน้ำอีกเกิน 3 เดือน ทาง อบต.จะมีหนังสือไปเตือนก่อน ให้มาชำระหนี้ เพื่อจะได้ไม่เป็นหนี้สะสม และหากเพิกเฉยก็จะดำเนินการยกหม้อน้ำทันที ซึ่งก็ขอขอบคุณที่ชาวบ้านเข้าอกเข้าใจ การแก้ไขปัญหาของ อบต.ซึ่งเป็นปัญหาที่หมักหมมมานาน จบลงไปด้วยดี

ข่าวเด่นบึงกาฬ ล่าสุด

อัพเดทล่าสุด