ในโรงเรียนก็ไม่เว้นโจรลักลอบตัดต้นไม้พยุงในโรงเรียนบ้านนาคำแคน อ.ศรีวิไล

จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บก.1(บึงกาฬ) ตรวจสอบและตรวจยึดไม้พะยูงที่ถูกตัดใน โรงเรียนบ้านนาคำแคน ต.นาแสง อ.ศรีวิไล เมื่อ 27 ต.ค.60 ครับ
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 28 ต.ค. ร.ต.อ.สนิท คำชมพู รอง.สว(สอบสวน) สภ.ศรีวิไล ได้รับแจ้งจากนางไพวัลย์ ไชยเพชร อายุ 56 ปี ครูโรงเรียนบ้านนาคำแคน หมู่ที่ 3 ต.นาแสง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ว่ามีคนร้ายลักลอบเข้ามาตัดต้นไม้พะยูงภายในโรงเรียน จึงได้ประสานกับ นายสุรัตน์ วิเศษลา เจ้าหน้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงานและหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ บก.1(บึงกาฬ) นำกำลัง เข้าไปตรวจสอบพร้อมด้วย ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน และครูในโรงเรียน  เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ด้านหลังห้องสมุด พบไม้พะยูงถูกตัดโค่นลงด้วยเลื่อยโซ่ยนต์จำนวน 1 ต้น ส่วนท่อนล่างที่อยู่ติดตอไม้คาดว่าจะมีความยาวประมาณ 8 เมตร ได้ถูกคนร้ายลักลอบเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ไปแล้ว ยังคงเหลือไม้ในส่วนปลาย เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด
นายสุรัตน์  วิเศษลา กล่าวว่าคาดว่าแก๊งค้าไม้พะยูงข้ามชาติจะอาศัยช่วงที่ปิดเทอมและเป็นเวลากลางคืนที่ปลอดคนพลุ่กพล่านแอบลักลอบนำเลื่อยโซ่ยนต์เข้ามาตัดไม้พะยูงภายในโรงเรียนที่ครู นักเรียนและชุมชนร่วมกันปลูกเอาไว้ให้ลูกหลานเยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้บริบทธรรมชาติแต่แก๊งค้าไม้พะยูงที่เห็นแก่เงินก็ได้มาลักลอบตัดเพื่อนำออกไปขายให้กับกลุ่มพ่อค้าชาวต่างประเทศ ซึ่งยังมีการค้าขายอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ทำกันเป็นขบวนการ มีเงินสะพัดอยู่ในวงการนี้เป็นจำนวนมา จึงตรวจยึดไม้ส่วนที่เหลืออีก 6 ท่อนปริมาตรรวม 0.492 ลุกบาศก์เมตร ไว้เป็นหลักฐานเพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
ภาพ/ข่าว นิธิศักดิ์  เศรษฐแสงศรี ผู้สื่อข่าวส่วนภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.บึงกาฬ

ไม้พยุงต้นใหญ่อยู่คู่โรงเรียน บ้านนาคำแคนมานานถูกโจรมอดไม้ลักลอบตัดเหลือแต่ตอเจ้าหน้าที่เร่งติดตามหาผู้กระทำผิดต่อไป

คำชี้แจงจากคุณครู ขอเรียนชี้แจงนะครับในฐานะอยู่โรงเรียนมานานกว่า 30 ปี
โรงเรียนนี้มีกำแพงรั้วรอบขอบชิด ประตูเหล็กล็อคกุญแจ และมีครู-ภารโรงตรวจตราทุกวัน
เป็นโรงเรียนในโครงการตามพระราชดำริฯ ในคืนวันเกิดเหตุครู-ภารโรงทุกคนเดินทางไปร่วมงานถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ พร้อมกันนี้ทางอำเภอได้ขอความร่วมมือให้โรงเรียนร่วมจัดนิทรรศการ “ศาสตร์พระราชา” ในฐานะเป็นโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนการสอนตามหลักปรัชญาเศรษกิจพอเพียง….เราช่วยกันเตรียมงานที่โรงเรียนสามวัน นำไปจัดล่วงหน้า 2 วัน ส่วนในวันงานทีมเราก็ร่วมพิธีเหมือนคนทั่วไปและมีภาระเฝ้าจุดแสดงนิทรรศการของโรงเรียนไปด้วยจนค่ำมืด จึงได้นำสิ่งของบางส่วนกลับ (ไก่พันธุ์ไข่ ลูกสุกรพันธุ์เหมยซาน 4 ตัว และอื่นๆ) เมื่อจัดเก็บแล้วก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน เพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเตรียมงานมาหลายวัน ครูเวรเฝ้าเวรยามตามปกติและนัดหมายวันรุ่งขึ้นเพื่อกลับเก็บข้าวของทุกอย่าง (ใช้รถกระบะขนย้าย 5 คัน) แต่เมื่อเช้ามาก็พบเหตุการณ์ดังกล่าว
เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในรอบสองเดือนที่ผ่านมา โดยในครั้งที่สามลักลอบตัดห่างจากจุดนี้เพียง 20 กว่าเมตร (มีฝนตกต่อเนื่องยาวนานในคืนเกิดเหตุ) เช้ามามีตำรวจ ทหาร ป่าไม้ ฝ่ายปกครองมาตรวจสถานที่….ได้นำเจ้าหน้าที่เดินตรวจต้นไม้ต้นนี้แล้วและขอคำแนะนำว่าเราควรป้องกันอย่างไร….ลำพังคนเป็นครูคงไม่มีปัญญาปกป้องดูแลต้นไม้เหล่านี้ได้มากนัก ครูไม่มีปืนและยิงปืนไม่เป็นเลยสักคน
ถ้าท่านรู้สภาพสถานที่เป็นจริงคงจะพอเข้าใจว่าจุดนี้เป็นจุดอับห่างจากจุดครูเวรพัก และบ้านพักครู 300 เมตร แต่ห่างจากบ้านเรือนราษฎรแค่กำแพงรั้วและถนน คสล.คั่นประมาณ 10 กว่าเมตรเท่านั้น เราเองก็สงสัยว่าทำไมเขาเหล่านั้นไม่รู้เรื่องเลย

‘>