บึงกาฬ เผาแล้วร่างลูกคลั่งยาบ้าใช้มีดพร้าไล่ฟันถูกพ่อตีสวนด้วยด้ามเสียมดับ

บึงกาฬ เผาแล้วลูกคลั่งยาบ้าใช้มีดพร้าไล่ฟันถูกพ่อตีสวนด้วยด้ามเสียมดับ
ภาพนิ่งเหตุการณ์เกิดเหตุ/พิธีเผา/สัมพ่อ/สัมนายก ทต.
กรณีลูกชายขอเงินพ่อแม่ไปซื้อยาบ้า1,000 บาท แต่ได้ 500 บาทไม่พอใจแถมทำหายเกิดคลั่งแบกมีดพร้าไล่ฟันถูกพ่อตีสวนด้วยด้ามเสียบดับคาที่ เหตุเกิดเมื่อวานผ่านมาวันนี้เผาแล้วมีเพื่อนร่วมงานและเพื่อนบ้านส่งดวงวิญญาณ แม่ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ
กรณี ร.ต.ท.จิราวรรณ ใจวาสัง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ รับแจ้งว่ามีเหตุพ่อกับลูกทะเลาะวิวาทกันทำให้มีผู้เสียชีวิต หน้าบ้านเลขที่ 112 หมู่ที่7 บ้านโคกก่อง ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ ทางสมาคมกู้ภัยร่วมใจบึงกาฬ ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าเลือดไหลนองพื้นอยู่หน้าร้านขายของชำกลางหมู่บ้านชื่อ นายเอกพล จันทร์อ้วน อายุ 32 ปี พนักงานลูกจ้างเทศบาลตำบลโคกก่อง เป็นลูกชายเจ้าของร้านค้า ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายตุ้ม จันทร์อ้วน อายุ 54 ปี พนักงานขับรถขนขยะทำงานที่เดียวกันและเป็นพ่อของผู้ตาย และไม่ได้หลบหนีไปไหนยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่อยู่หน้าบ้าน ที่เกิดเหตุมีเสียมด้ามเป็นเหล็กยาวประมาณ 1.20 เมตร ตกอยู่ถนนหน้าบ้าน และมีมีดพร้าถางหญ้าด้ามยาวประมาณ 1 เมตรตกอยู่ข้างศพผู้ตาย เหตุเกิดเมื่อวานผ่านมา
สอบถามเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายมีอาการคลุ้มคลั่งและมีปากเสียงกันกับพ่อตั้งแต่ในบ้าน จึงใช้มีดพร้าวิ่งเข้าทำร้ายพ่อ ขณะที่พ่อกำลังขายของอยู่ในร้าน พ่อจึงใช้เสียมด้ามเหล็กที่พิงอยู่ผนังหน้าบ้านป้องกันตัวเองตีสวนกลับมีดพร้าไป1 ที แต่เลยไปถูกศีรษะผู้ก่อเหตุจนล้มลงหัวฟาดพื้นถนนและเสียชีวิตต่อมา แพทย์เวรและตำรวจร่วมกันชันสูตรพบว่าผู้ตายถูกตีด้วยของแข็งเข้าศีรษะจึงเป็นแผลฉกรรจ์เห็นกะโหลกและเสียเลือดมากเป็นเหตุให้เสียชีวิต

เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ 9 ม.ค.ญาติๆ จึงได้ทำการฌาปนกิจศพนายเอกพล จันทร์อ้วน อายุ 32 ปี ที่คลั่งยาบ้าที่วัดป่าภาวนาภิสณฑ์ บ้านโคกก่อง โดยมีเพื่อนร่วมงาน ญาติและชาวบ้านไปร่วมส่งดวงวิญญาณเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ เมื่อลูกชายวัยกำลังทำงาน แต่มาติดยาเสพติดหรือยาบ้า จนอาการคุ้มคลั่งเกิดอาการหลอน ใช้อาวุธมีดพร้าถางหญ้าไล่ฟันผู้เป็นพ่อ เหตุเพราะขอเงินแม่ 1,000 บาท แต่ได้แค่ 500 บาท เพื่อนำไปซื้อยาบ้ามาเสพ แต่ทำหายจึงไม่มีเงินไปซื้อยาบ้า เข้าใจว่าผู้เป็นพ่อเอาเงิน 500 ไป จึงโมโหคุ้มคลั่งทำร้ายพ่อแต่ถูกตีสวนด้วยด้ามเสียตีหัวจนตายดังกล่าว
สวนบรรยากาศในงานศพ หลังจากมีการจุดไฟเผาร่างลูกชายทาสยาบ้าในเมรุ นางบังอร จันทร์อ้วน อายุ 53 ปีผู้เป็นแม่ร้องไห้ด้วยความเสียใจที่มาสูญเสียลูกชายไปเพราะฝีมือพ่อ จนเป็นลมญาติๆ ต้องคอยนวด พัดวีและปลอบใจให้หายคลายความเศร้า จนทำให้ญาติคนอื่นก็พลอยร้องไห้ตามๆ กันไปด้วย

ด้ายนายตุ้ม จันทร์อ้วน ผู้เป็นพ่อ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตาซึมตลอดเวลาว่า ลูกชายมีอาการหงุดหงิดโวยวายมาได้ 3 วันแล้ว ก่อนเกิดเหตุได้ขอเงินแม่ นางบังอร 1,000 บาท แต่แม่ให้ไป 500 บาท คงจะไปซื้อยาบ้ามาเสพ เพราะเสพติดมาแล้ว 2 ปี หลังจากได้เงินไปไม่นานก็มาโวยวายว่าเงินที่แม่ให้ไป 500 บาทหาย คิดว่าพ่อเป็นคนเอาไป จึงได้โวยวายต่อว่าต่อขาน แล้วเดินไปเอามีดพร้าถางหญ้าที่อยู่บ้านลูกชายห่างไป 20 เมตรมาไล่ฟันตนเอง จึงได้วิ่งหลบหนีไปรอบบ้าน แต่ลูกชายยังถือพร้าไล่ตาม ตนมองเห็นเสียมวางพิงอยู่กำแพงหน้าบ้านจึงได้หยิบเอามาป้องกันคมมีดพร้า ตีสวนไป 1 ปีที่ลูกชาย บังเอิญถึงคราวเคราะห์ด้ามเสียงจึงไปถูกศีรษะลูกชายล้มลงพื้นถนนคอนกรีตหน้าบ้าน เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว ตนเองก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งใจตีเพื่อสั่งสอนลูกเท่านั้น เพราะไม่นึกไม่ฝันว่าจะเป็นคนมาทำร้ายลูกชายถึงแก่ชีวิตในเหตุการณ์อย่างนี้

ด้าน นายบัวพันธ์ วงค์จันทร์ นายกเทศมนตรีตำบลโคกก่อง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา 2 พ่อลูกที่ก่อเหตุ ได้กล่าวว่า ทั้ง 2 คนทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ที่เทศบาลฯ โดยพ่อเป็นพนักงานขับรถขนขยะ ส่วนลูกชายเป็นลูกจ้างภารกิจทั่วไป ก็ทำงานดีมาตลอดแต่มาพักหลังมีปัญหาอยู่บ้างตนจึงได้เรียกมาว่ากล่าวตักเตือนก็ดีขึ้น แต่ทราบว่าติดยาเสพติดก็ถือว่าเป็นผู้ป่วย ญาติจึงจะพาไปรักษา แต่ว่ามาเกิดเหตุการณ์เศร้าขึ้นก่อน ส่วนตนในฐานะผู้บริหารเทศบาล ก็ได้ตั้งงบประมาณเพื่อจะสนับสนุนในการดูแลบำบัดรักษาผู้ป่วยในเขตรับผิดชอบ และก็ติดต่อทางเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องในการประสานงานสอดส่องผู้เสพยาเสพติด และผู้ค้าในชุมชน เพื่อรายงานต่อส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป.