จ.บึงกาฬ ประกาศเตือน!”พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2561 (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 20-23 มีนาคม 2561)”

จ.บึงกาฬ ประกาศเตือน!”พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 20-23 มีนาคม 2561)”  ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2561

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 20-23 มีนาคม 2561)”  ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2561

ในช่วงวันที่ 20-23 มีนาคม 2561 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกจะมีผลกระทบในวันที่ 20 มีนาคม 2561 ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะเริ่มได้รับผลกระทบในวันถัดไป (วันที่ 21 มีนาคม 2561) จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยจะมีผลกระทบดังนี้ ในช่วงวันที่ 20-21 มีนาคม 2561ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาญเจริญ และอุบลราชธานีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และชลบุรีภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยารวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลในช่วงวันที่ 22-23 มีนาคม 2561ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยจะเริ่มแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ประกาศ ณ วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 05.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 11.00 น.   (ลงชื่อ) วันชัย ศักดิ์อุดมไชย (นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย) อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

ที่มา https://www.tmd.go.th/warningwindow.php?wID=6877

 

 

บึงกาฬเจอหนัก..!! พายุหมุนพัดกระหน่ำ โดนอ่วมอีกระลอก ทั้งอาคารเรียน บ้านเรือน ป้อมตำรวจ สวนยาง เสียหายยับ จนท.เร่งช่วยเข้าซ่อมแซม!?

เมื่อเวลา 04.00 นวันที่ 17 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบึงกาฬว่า ที่บ้านเหล่าคาม หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำจั้น อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ ขณะที่ประชาชน กำลังนอนหลับใหลอย่างสบายในช่วงเวลาตี 4  ซึ่งอุณหภูมิเย็นสบายอยู่ที่ประมาณ 25 องศา ก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีวี่แววหรือบ่งบอกแจ้งเตือนล่วงหน้า นั่นคือได้เกิดพายุฝนลมแรงพร้อมลูกเห็บตกลงมาใส่หลังคาบ้านเรือนราษฎร ทั้งส่วนราชการให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก ลำพังลมฝนและลูกเห็บไม่เท่าไหร่ แต่คราวนี้มีลมพายุหมุนเข้ามาด้วย  จึงพัดเอาหลังคาบ้านเรือนราษฎรขณะที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอย่างสบายอยู่ในชายคาบ้านพักของตนเอง จังหวะนั่นเองพายุหมุนได้พัดเอาหลังคาบ้านเปิดเปิงปลิวว่อนไปกับสายลมแล้วยังมีลูกเห็บตกลงมาซ้ำ ชาวบ้านผู้ประสบวาตภัยต้องหอบลูกจูงหลานหลบภัยกันอลเวงท่ามกลางความมืดมิดเนื่องจากไฟฟ้าก็ดับ  นอกจากนั้นก็ยังมีอาคารเรียน โรงอาหาร บ้านพักครู โรงเรียนบ้านเหล่าคาม และสวนยางพาราถูกลมพายุพัดหักโค่นเป็นจำนวนมาก

พายุหมุนพัดอาคารเรียน บ้านเรือน ป้อมตำรวจโดนกันทั่วหน้านายเดชา ลุลาวง อายุ 42 ปีผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเหล่าคาม เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณตี 4 ได้เกิดลมพายุหมุนและลูกเห็บตกลงมาประมาณ 1 ชั่วโมง สร้างความเสียหาย ให้กับอาคารเรียน โรงอาหารและบ้านพัก โรงเรียนบ้านเหล่าคามอย่างหนัก เป็น อาคารเรียน 2 ชั้นอยู่ระหว่างการปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ โดยได้ทุบชั้นล่างออกต่อเสาปูนยกสูงขึ้น  ทาสีพึ่งแล้วเสร็จ 7 วันอยู่ระหว่างการตกแต่งภายใน ชั้น 2 นี้มี 2 ห้องเรียนเพื่อจัดเป็นห้องปฏิบัติการทางภาษา ซึ่งจะต้องติดตั้งคอมพิวเตอร์ จำนวนหลายเครื่อง  ความเสียหายก็มีหลังคาอาคารเรียน ฝาห้อง สมุดหนังเสือเรียน นอกจากนี้ก็มีโรงอาหารและบ้านพักครูที่พึ่งซ่อมแซมแล้วเสร็จไปใหม่ๆ แต่ยังโชคดีที่ยังปรับปรุงไม่แล้วเสร็จจึงไม่ได้นำเครื่องอุปกรณ์การเรียนการสอนเช่นคอมพิวเตอร์เข้าไปติดตั้งเรียน ค่าเสียหายครั้งนี้ประมาณ 500,000 บาท (ห้าแสนบาท)  ซึ่งวันนี้ศิษย์เก่า โรงเรียนบ้านเหล่าคาม จะนำผ้าป่าสามัคคีมาถอดที่โรงเรียนเพื่อนำเงินมาสมทบทุนในการซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอน เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ จะได้เร่งสำรวจความเสียหายอย่างละเอียดแจ้งเข้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อของบประมาณมาซ่อมแซมให้ทันในการเปิดเทอมปีการศึกษาปีที่ 1/2561  ที่จะมาถึงนี้ และโชคดีที่ผึ้งสอบเสร็จ ใหม่ๆ วาตภัยเกิดขึ้นครั้งนี้จึงไม่มีผลกระทบกับการเรียนการสอนตามปกติ

ชาวสวนยางช้ำหนักยางราคาตกไม่พอโดนพายุหมุนพัดต้นหักโค่นซ้ำเติม

ทางด้านนายอนุชิต สารีบุตร อายุ 47 ปีผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านเหล่าคามกล่าวว่า พายุหมุนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จากการสำรวจเบื้องต้น มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบ จำนวน 15 หลังคาเรือน มีป้อมยามตำรวจ สภ.ป่งไฮใช้บริการประชาชน1 หลังและสวนยางพาราถูกลมพายุหมุนพัดหักโค่น ไปเป็นจำนวนรวม 600 ต้น มีเกษตรกรได้รับผลกระทบจำนวน 7 ราย ได้ เร่งสำรวจ ความเสียหายเพื่อรายงานให้นายอำเภอเซกาได้รับทราบ เพื่อจัดสรรงบประมาณมาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะหากทิ้งไว้ลมฝนมาอีกระลอก ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนระหว่างวันที่ 20-23 มี.ค.นี้อาจจะสร้างความเสียหายและเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว  ในเบื้องต้นนี้ทาง นายถาวร จันทราศรี นายก อบต.น้ำจั้น ได้ออกมาดูแลช่วยเหลือและจัดสรรงบประมาณมาช่วยซ่อมแซมเล็กน้อยเบื้องต้นแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น.

 

ภาพ/ข่าว นิธิศักดิ์  เศรษฐแสงศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.บึงกาฬ’>